กฎหมายแรงงานใหม่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยปรับเพิ่มสิทธิลาคลอดบุตรเป็น 120 วัน และเปิดโอกาสให้ คู่สมรสสามารถลางานเพื่อช่วยดูแลภรรยาหลังคลอดได้ 15 วัน นับเป็นการปรับปรุงพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานครั้งสำคัญ เพื่อรองรับโครงสร้างครอบครัวและการทำงานในยุคปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 น.ส.ลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2568 ได้เริ่มมีผลใช้บังคับแล้ว หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 และพ้นกำหนด 30 วันตามที่กฎหมายกำหนด
กฎหมายแรงงานฉบับนี้ถูกมองว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานแรงงานไทย โดยมุ่งเพิ่มสิทธิด้านการลาและการคุ้มครองลูกจ้างอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตครอบครัว

สรุปสาระสำคัญกฎหมายแรงงานใหม่ ปี 2568
1. เพิ่มวันลาคลอดบุตรเป็น 120 วัน
ลูกจ้างหญิงมีสิทธิลาคลอดบุตรเพิ่มจากเดิม 98 วัน เป็น 120 วัน
โดยนายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในระหว่างลาคลอด ไม่เกิน 60 วัน ในอัตราเท่ากับค่าจ้างในวันทำงาน ตามที่กฎหมายกำหนด
ประเด็นนี้ถือเป็นการเพิ่มความคุ้มครองด้านสุขภาพของมารดาและทารก พร้อมลดแรงกดดันด้านรายได้ในช่วงหลังคลอด
2. ลาดูแลบุตรป่วย เพิ่มสิทธิ 15 วัน
ลูกจ้างสามารถใช้สิทธิลาดูแลบุตรได้เพิ่ม ไม่เกิน 15 วัน
ในกรณีที่บุตรเจ็บป่วย พิการ หรือมีความผิดปกติ โดยได้รับค่าจ้าง ร้อยละ 50 ของค่าจ้างในวันทำงาน
3. คู่สมรสลาช่วยภรรยาคลอดบุตรได้ 15 วัน
กฎหมายแรงงานฉบับใหม่กำหนดสิทธิใหม่เป็นครั้งแรก
ให้ คู่สมรสสามารถลางานเพื่อช่วยดูแลภรรยาหลังคลอดบุตรได้ไม่เกิน 15 วัน
และได้รับ ค่าจ้างเต็มจำนวน
มาตรการนี้สะท้อนแนวคิดการส่งเสริมบทบาทของครอบครัว และความเท่าเทียมในการดูแลบุตร
4. คุ้มครองแรงงานจ้างเหมาบริการในหน่วยงานรัฐ
ลูกจ้างจ้างเหมาบริการในหน่วยงานของรัฐ จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านแรงงาน เทียบเท่าลูกจ้างทั่วไป
ทั้งในเรื่องค่าจ้าง วันหยุด และสิทธิการลา ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในระบบแรงงาน

รัฐบาลชี้ เป็นการปฏิรูปกฎหมายแรงงานครั้งสำคัญ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า กฎหมายแรงงานใหม่ฉบับนี้สะท้อนนโยบายของรัฐบาลในการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทย ให้สอดคล้องกับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมสนับสนุนสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อครอบครัวในระยะยาว
นายจ้าง–ลูกจ้างควรเตรียมตัวอย่างไร
ภาครัฐขอให้นายจ้างและลูกจ้างทุกภาคส่วน
-
ศึกษารายละเอียดพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่
-
ปรับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านการลาให้สอดคล้องกับกฎหมาย
-
เตรียมความพร้อมด้านเอกสารและระบบบริหารบุคคล
เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายแรงงานใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบแรงงานของประเทศ